วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน


หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน

หลวงพ่อโหน่ง ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2409 ที่ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง สุพรรณบุรี โยมบิดาชื่อ โต โยมมารดาชื่อ จ้อย อาชีพทำนา เมื่ออายุได้ 24 ปี พ.ศ.2433 ท่านก็อุปสมบท ณ วัดสองพี่น้อง โดยมีพระอาจารย์จันทร์ วัดทุ่งคอก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการดิษฐ์ วัดทุ่งคอก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการสุด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อหลวงพ่อโหน่งอุปสมบทแล้วท่านก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปจำพรรษาอยู่กับพระน้าชาย ซึ่งมีสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ต่อมาหลวงพ่อโหน่งท่านได้เห็นพระน้าชายมีความเป็นอยู่อุดมสมบูรณ์ มีสิ่งของมากมาย ท่านจึงถามพระน้าชายว่าท่านสละกิเลสหมดแล้วหรือ หลังจากนั้นท่านก็ลาพระน้าชายกลับมาจำพรรษายังวัดสองพี่น้องตามเดิม หลังจากนั้นก็ได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งคอก เพื่อศึกษาวิปัสสนากรรมฐานกับพระอธิการจันทร์ พระอุปัชฌาย์ของท่าน

หลวงพ่อโหน่งได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานอยู่กับหลวงพ่อจันทร์ได้ 2 พรรษา จึงได้เดินทางมาศึกษาวิปัสสนากรรมฐานต่อกับหลวงพ่อเนียม วัดน้อย ตำบลโคกคราม อำเภอบางปลาม้า จนกระทั่งมีความรู้แตกฉาน เป็นที่ไว้วางใจของหลวงพ่อเนียมได้ เมื่อตอนหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยามาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเนียม หลวงพ่อเนียมได้พูดกับหลวงพ่อปานว่า "เวลาข้าตายแล้วเอ็งสงสัยอะไรก็ให้ไปถามโหน่งเขานะ โหน่งเขาแทนข้าได้"เมื่อหลวงพ่อโหน่งกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสองพี่น้อง ท่านเกิดมีจิตใจไม่สบายอย่างไรชอบกล ท่านจึงเดินทางไปหาหลวงพ่อเนียมอีก ยังไม่ทันที่หลวงพ่อโหน่งจะกล่าวอะไร หลวงพ่อเนียมท่านพูดขึ้นก่อนว่า "ฮื้อ ทำไปเองนี่นา ไม่มีอะไรหรอก กลับไปเถอะ" หลวงพ่อโหน่งท่านจึงรู้สึกสบายใจกลับไปวัดสองพี่น้องได้ต่อมาหลวง พ่อแสงผู้สร้างวัดคลองมะดัน ทราบว่าหลวงพ่อโหน่งเป็นผู้ที่จะมาแทนท่านได้จึงนิมนต์หลวงพ่อโหน่งให้มาจำ พรรษาอยู่ที่วัดคลองมะดัน เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านอาจารย์แสง เมื่อหลวงพ่อแสงมรณภาพลง หลวงพ่อโหน่งก็รักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาส และเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมาเมื่อหลวงพ่อโหน่งท่านมาจำพรรษาอยู่ที่วัด คลองมะดัน ท่านฉันภัตตาหารเจ ก่อนออกบิณฑบาตจะมานมัสการต้นโพธิ์ทุกเช้า เมื่อบิณฑบาตกลับมาก็จะใส่บาตรถวายสังฆทาน ท่านเอามารดามาอยู่ที่วัดด้วยปรนนิบัติจนกระทั่งถึงแก่กรรม หลวงพ่อโหน่งท่านเคร่งครัดในการอบรมสั่งสอนพระเณรและลูกศิษย์วัด ไม่รับเงินทอง เจริญวิปัสสนากรรมฐานในป่าช้าเป็นประจำ ท่านถือสันโดษไม่สะสมทรัพย์สิน ท่านได้สร้างสาธารณูปการเพิ่มขึ้นอีกมากมาย หลวงพ่อโหน่งท่านล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้เสมอ พระเณรทำผิดอะไรที่ไหนท่านรู้หมดโดยที่ไม่มีใครมาบอกท่าน มีอยู่ครั้งหนึ่งหลวงพ่อปานจะไปหาหลวงพ่อโหน่งที่วัดคลองมะดัน หลวงพ่อโหน่งได้บอกกับลูกศิษย์ให้จัดเตรียมที่ทางไว้ วันนี้จะมีพระผู้ใหญ่มาหา และในวันนั้นหลวงพ่อปานก็ไปหาหลวงพ่อโหน่งที่วัดจริงๆ หลวงพ่อโหน่งท่านถึงแก่มรณภาพเมื่อวันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2477 สิริอายุได้ 68 ปี พรรษาที่ 44หลวงพ่อโหน่งท่านได้สร้างพระเครื่อง ไว้ให้แก่ศิษย์เป็นพระเนื้อดินเผา สันนิษฐานว่าท่านสร้างไว้ตั้งแต่ปีพ.ศ.2461 โดยใช้เวลาการสร้างนานถึง 10 ปี มีอยู่หลายพิมพ์ด้วยกันเช่น พิมพ์ซุ้มกอ พิมพ์ขุนแผนหน้าค่าย พิมพ์ปรุหนัง พิมพ์สมเด็จ พิมพ์ท่ากระดาน พิมพ์ชินราช พิมพ์พระเจ้าห้าพระองค์ พิมพ์ลีลา พิมพ์ปิดตา พิมพ์ขุนแผน พิมพ์ไสยาสน์ เป็นต้นพระเครื่องของหลวงพ่อโหน่งล้วนแต่มีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย เป็นที่หวงแหนของ ชาวสุพรรณฯ พิมพ์ที่นิยมมากๆ ก็คือ พิมพ์ซุ้มกอและพิมพ์ขุนแผนหน้าค่าย วันนี้ผมนำ พระหลวงพ่อโหน่ง พิมพ์ซุ้มกอใหญ่ องค์สวยของคุณดามพ์ สุพรรณ มาให้ชมกันครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น